ค่อยๆหายใจก่อน ปัญหาอันเบิ้มเริ่มที่เราเผชิญอยู่ตรงหน้าตอนนี้อาจจะไม่ได้ใหญ่อย่างทีคิดก็ได้ สิ่งแรกที่เราควรทำเมื่อรู้ว่าตัวเองเจอปัญหาคือการตั้งสติ และ เชื่อก่อนว่ามันมีทางแก้เสมอ
ปัญหาใหญ่ๆที่ซับซ้อนหลายๆอย่าง เกิดจากปัญหาย่อยหลายๆอันมาอยู่รวมกัน พอมันใหญ่ เราจะเริ่มวิตกและหวั่นในความสามารถว่า โอ้ย ฉันจะแก้มันได้ยังไงเนี่ย! ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ …สิ่งที่เราต้องทำคือ จัดระเบียบความคิด
การแตกปัญหาใหญ่ออกมาเป็นปัญหาย่อยๆ เลยเป็นวิธีการที่จะทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าเรื่องที่ต้องจัดการมีอะไรบ้าง มากไปกว่านั้น เราจะเริ่มมองเห็นวิธีแก้จากขนาดปัญหาที่เล็กลง แถมเราจะมีความมั่นใจขึ้นถ้าเราเริ่มแก้มันได้ทีละหน่อยๆ เมื่อเราแก้ปัญหาย่อยๆพวกนี้ไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าปัญหาใหญ่อันเดิมนั้นได้ถูกแก้ไปโดยอัตโนมัติทันที
“อย่าพยายามกินเค้กทั้งก้อนในคำเดียว“
เมื่อเราเจอปัญหาไม่ว่าเรื่องงาน, ความสัมพันธ์, ชีวิตไม่รู้เอายังไงต่อ, เริ่มเดินไม่ถูก หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เราเรียกมันว่าปัญหา จงตั้งสติแล้วนั่งลง หากระดาษมาแผ่นนึงที่ตรงกลางเขียนปัญหาของเราลงไป จากนั้นก็แตกย่อยสาเหตุของปัญหามันออกมาเป็น Mind map ไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเข้าใจองค์ประกอบของสิ่งที่เราจะต้องจัดการมากขึ้น
จากนั้นให้ลองเรียงลำดับความสำคัญของมันดูว่าอันไหนสำคัญมากและเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข หรือดูว่าปัญหาอะไรที่เราแก้แล้วปัญหาอื่นจะถูกแก้ไปด้วยก็มาก่อน อันไหนยังไม่ค่อยสำคัญก็รอไปก่อน ถึงตรงนี้เราจะเห็นทางไปต่อชัดขึ้นเพราะรู้ว่าควรต้องทำอะไรก่อนหลัง และเห็นว่าจะต้องจัดการยังไงจากปัญหาที่เล็กลงและง่ายขึ้น
พยายามลองแตกปัญหาลงในกระดาษเขียนมันออกมา อย่าไปรบกวนแรมสมองเลย เอาให้มันไว้คิดวิธีแก้ดีกว่า คิดบนกระดาษจะทำให้เราแตกปัญหาได้ละเอียดมากขึ้น แล้วเราก็มาวางแผนจัดการแต่ละปัญหาย่อยต่อไป
ซึ่งวิธีนี้หนึ่งในสี่วิธีของแนวคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) ที่สามารถนำไปปรับกับเรื่องอื่นๆได้อีกมาก มากกว่าแค่การทำธุรกิจหรือสร้างโปรดักส์ ยังไงลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ
